Friday, December 12, 2008
โครงการอบรมเสริมความรู้พระธรรมทูตด้านสื่อเทคโนโลยีฯ
สภาพทั่วไปในโลกปัจจุบันนี้ ข่าวสารข้อมูลมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง และมีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้ข้อมูลและข่าวสารแพร่กระจายไปในเวลาอันรวดเร็ว ครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้โลกแคบลงเหมือนเป็นชุมชนเดียวกันเป็นหมู่บ้าน (global village) การเชื่อมโยงด้านสารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง ทำให้เข้าถึงแหล่งความรู้ที่ต้องการได้มากขึ้น เป็นระบบการ เรียนรู้ที่เปิดกว้าง ไม่จำกัดเวลา สถานที่ และเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุดดังนั้น สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สื่อจากวิทยาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงได้จัดทำโครงการอบรมเสริมความรู้ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา พ.ศ.๒๕๕๑ ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
๑. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ บริการวิชาการพระพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ และแถลงกิจการของสมัชชาสงฆ์ไทย ด้วยสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
๒. เพื่อสร้างเครือข่าย (network) ของการเผยแผ่พุทธศาสนาให้ขยายออกไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น และจะเป็นแรงกระตุ้นให้แก่วัดอื่นๆ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๓. เพื่อเป็นการช่วยให้พระสงฆ์ และผู้สนใจทั่วไป สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ผลิตสื่อต่างๆ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๔. เพื่อประสานความร่วมมือในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาระหว่างพระสงฆ์ และฆราวาสในระดับนานาชาติ
ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญของสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ร่วมกับวัดไทยกรุงวอชิงตัน, ดี.ซี. บริษัทไอไออาร์ที (IIRT.NET) โดยคุณยุทธชาติ พิชัยกุล และ บริษัทไอเซนเน็ต ดอทเน็ต (Izennet.net) โดยมีคุณสมาน –คุณสมัญญา จันทะนามศรี และทีมงาน เป็นผู้ให้การอุปถัมภ์ ด้านอุปกรณ์ และเป็นวิทยากร ถวายความรู้ในครั้งนี้ รวมทั้งพระธรรมทูตจากวัดต่าง ๆ ที่มีความรู้ความสามารถได้ให้การอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดความรู้ความชำนาญในการใช้โปรแกรมต่าง ๆ
การอบรมเริ่มตั้งแต่ วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นเวลา ๖ วัน มีพระธรรมทูตสมัครเข้ารับการอบรม ๒๑ รูป/คน จาก ๑๑ วัดในเครือสมัชชาสงฆ์ไทย สถานที่ ห้องเอนกประสงค์อุโบสถศาลาพระพุทธมงคลวิมลดี.ซี. วัดไทยกรุงวอชิงตัน,ดี.ซี.
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
๑. ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ภาษา และขนบธรรมเนียนประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ
และได้ประชาสัมพันธ์กิจการของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ผ่านทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
๒. ได้กระตุ้นให้พระสงฆ์ไทย และฆราวาสได้ร่วมมือร่วมใจกัน เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
๓. ได้สร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างชนทุกชาติ ทุกผิวพรรณ และทุกศาสนา ที่ใช้สื่อเทคโนโลยี
๔. มีศูนย์พัฒนาและบริการด้านพุทธศาสนาระดับนานาชาติ ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
๕. ทำให้พระธรรมทูตได้มีโอกาสพบปะสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประกาศและเผยแผ่พุทธนาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
Wednesday, January 16, 2008
พระวิทยากร ที่ให้ความรู้ในการอบรม
การเผยแผ่พระพุทธศาสนายุคไอที
การเปิดอบรมคอมพิวเตอร์และการผลิตสื่อการสอนในยุคไอที ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๒๐ มกราคม ๒๕๕๑ ณ วัดไทยกรุงวอชิงตันดีซี โดยมีวัดไทยกรุงวอชิงตันดีซีเป็นเจ้าภาพในการจัดอบรม มีวัดวชิรธรรมปทีป และวัดป่าสันติธรรม เวอร์จิเนีย ส่งพระธรรมทูตเข้ารับการอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพของพระธรรมทูตในการนำสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเปิดอบรมในครั้งนี้ มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการผลิตสื่อด้านต่าง ๆ มาให้ความรู้เป็นวิทยาทานแก่เพื่อนพระธรรมทูต
วิชาที่อบรมแก่พระธรรมทูต
การเปิดอบรมในครั้งนี้ มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการผลิตสื่อด้านต่าง ๆ มาให้ความรู้เป็นวิทยาทานแก่เพื่อนพระธรรมทูต โดยมีตารางอบรม ดังนี้
เริ่มด้วยวันแรก(๑๔ ม.ค.๒๕๕๑)ได้รับความเมตตาจาก ดร.พระมหาถนัด อัตถจารี ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพวีดิโอและภาพนิ่ง พร้อมทั้งนำมาตัดต่อด้วยโปรแกรม Pinnacle Studio 11 พร้อมกันนี้ท่านได้สอนวิธีการถ่ายภาพวีดิโอแบบมืออาชีพ การโหลดลงคอมพิวเตอร์ และนำมาตัดต่อ แต่งเติม เพิ่มสีสันโดยการใส่เสียงบรรยาย ตัวหนังสือ และลูกเล่นให้ผลงานออกมาน่าสนใจ
ท่านเริ่มสอนตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ น. จนถึงเวลา ๑๗.๐๐ น. บรรยากาศการเรียนแบบเป็นกันเอง ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ เมื่อไม่เข้าใจก็สามารถถามพระวิทยากรได้โดยตรง สอนตั้งแต่ทำไม่เป็นจนทำเป็น ทำให้พระธรรมทูตผู้เข้ารับการอบรมมีความกระตือรือร้นในการเรียนและต่างตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนเลิกเรียน พระวิทยากรผู้อบรมยังให้การบ้านกับพระธรรมทูตได้ไปลองทำและนำมาส่งเพื่อจะได้รับคำแนะนำและปรับปรุงให้การผลิตสื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันที่ ๒ ของการอบรม(๑๕ ม.ค.๒๕๕๑) วันนี้ได้รับความเมตตาจากพระมหาสัมฤทธิ์ ฐิตสีโล ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อบันทึกเสียง การบันทึกซีดีและดีวิดี ความรู้เรื่องเสียง และนำมาแต่งเสียงด้วยโปรแกรม Nero Wave Editor 7
พระวิทยากรเริ่มต้นสอนด้วยการนำไฟล์วีดิโอมาแปลงเป็นไฟล์ออดิโอ โดยการใช้โปรแกรม VirsualDub 1.6 ที่ง่ายและสะดวก โดยท่านเมตตาลงโปรแกรมนี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพระธรรมทูตทุกรูปโดยไม่คิดค่าลงโปรแกรมใดใดทั้งสิ้น เมื่อพระธรรมทูตทำจนเป็นแล้ว ท่านก็ได้เริ่มเข้าสู่บทเรียนการบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Nero Wave Editor 7 โดยการบันทึกเสียงและนำมาตัดต่อ แต่งเสียงให้ออกมาดี เรียกว่า เสียงไม่ดี ก็ทำให้ดีได้ ปรับให้นุ่มนวล ช้า เร็วได้ หรือ ไม่ชอบใจในเสียงกระแอมกระไอก็สามารถที่จะตัดออกได้ ทำให้ผลงานออกมาไร้รอยติ
เมื่อสอนจนเพื่อนพระธรรมทูตทั้งหมดที่เข้ารับการอบรมทำเป็นแล้ว ท่านก็ได้เมตตาให้การบ้านกับพระธรรมทูตไปบันทึกเสียงและตัดแต่งมาส่งในวันต่อไป ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การตัดต่ออันนี้มีประสิทธิภาพอย่างมากในการนำไปผลิตสื่อเสียง หรือหนังสือเสียงธรรมะเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการเผยแผ่ในยุคที่คนไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือมากนัก
เริ่มด้วยวันแรก(๑๔ ม.ค.๒๕๕๑)ได้รับความเมตตาจาก ดร.พระมหาถนัด อัตถจารี ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพวีดิโอและภาพนิ่ง พร้อมทั้งนำมาตัดต่อด้วยโปรแกรม Pinnacle Studio 11 พร้อมกันนี้ท่านได้สอนวิธีการถ่ายภาพวีดิโอแบบมืออาชีพ การโหลดลงคอมพิวเตอร์ และนำมาตัดต่อ แต่งเติม เพิ่มสีสันโดยการใส่เสียงบรรยาย ตัวหนังสือ และลูกเล่นให้ผลงานออกมาน่าสนใจ
ท่านเริ่มสอนตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ น. จนถึงเวลา ๑๗.๐๐ น. บรรยากาศการเรียนแบบเป็นกันเอง ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ เมื่อไม่เข้าใจก็สามารถถามพระวิทยากรได้โดยตรง สอนตั้งแต่ทำไม่เป็นจนทำเป็น ทำให้พระธรรมทูตผู้เข้ารับการอบรมมีความกระตือรือร้นในการเรียนและต่างตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนเลิกเรียน พระวิทยากรผู้อบรมยังให้การบ้านกับพระธรรมทูตได้ไปลองทำและนำมาส่งเพื่อจะได้รับคำแนะนำและปรับปรุงให้การผลิตสื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันที่ ๒ ของการอบรม(๑๕ ม.ค.๒๕๕๑) วันนี้ได้รับความเมตตาจากพระมหาสัมฤทธิ์ ฐิตสีโล ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อบันทึกเสียง การบันทึกซีดีและดีวิดี ความรู้เรื่องเสียง และนำมาแต่งเสียงด้วยโปรแกรม Nero Wave Editor 7
พระวิทยากรเริ่มต้นสอนด้วยการนำไฟล์วีดิโอมาแปลงเป็นไฟล์ออดิโอ โดยการใช้โปรแกรม VirsualDub 1.6 ที่ง่ายและสะดวก โดยท่านเมตตาลงโปรแกรมนี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพระธรรมทูตทุกรูปโดยไม่คิดค่าลงโปรแกรมใดใดทั้งสิ้น เมื่อพระธรรมทูตทำจนเป็นแล้ว ท่านก็ได้เริ่มเข้าสู่บทเรียนการบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Nero Wave Editor 7 โดยการบันทึกเสียงและนำมาตัดต่อ แต่งเสียงให้ออกมาดี เรียกว่า เสียงไม่ดี ก็ทำให้ดีได้ ปรับให้นุ่มนวล ช้า เร็วได้ หรือ ไม่ชอบใจในเสียงกระแอมกระไอก็สามารถที่จะตัดออกได้ ทำให้ผลงานออกมาไร้รอยติ
เมื่อสอนจนเพื่อนพระธรรมทูตทั้งหมดที่เข้ารับการอบรมทำเป็นแล้ว ท่านก็ได้เมตตาให้การบ้านกับพระธรรมทูตไปบันทึกเสียงและตัดแต่งมาส่งในวันต่อไป ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การตัดต่ออันนี้มีประสิทธิภาพอย่างมากในการนำไปผลิตสื่อเสียง หรือหนังสือเสียงธรรมะเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการเผยแผ่ในยุคที่คนไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือมากนัก
Subscribe to:
Posts (Atom)